หลายๆ คนที่เพิ่งเริ่มศึกษาการทำ SEO อยู่อาจจะหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตหรือหาอ่านจะหนังสือ แล้วรู้สึกว่าข้อมูลมันเยอะไปหมดไม่รู้ต้องโฟกัสจุดไหน วันนี้ผมจะมาแชร์ 5 เรื่องที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับ SEO
1. การเลือกคีย์เวิร์ดกว้างไว้ก่อน
คุณอาจจะคิดว่าการเริ่มต้นด้วยคีย์เวิร์ดกว้างๆ จะปลอดภัยและทำให้คุณเทียบเท่าคู่แข่งได้ ถือว่าเป็นความคิดที่ไม่ผิดแต่การที่คุณจะสู้กับคนที่เขาทำมานานจนติดอันดับหน้าแรกนั้น ต้องใช้เวลาและความอดทนมากเนื่องจากต้องสู้กับการแข่งขันที่ดุเดือด และหากคุณจะเลือกวิธีที่สะดวกเช่นจ้าง Expert ค่าใช้จ่ายที่คุณต้องเสียก็จะสูงตามความยากและความดุเดือดในการแข่งขันเช่นกัน ดังนั้นหากให้เราแนะนำควรเริ่มต้นด้วยคำเฉพาะเจาะจงก่อน ขอยกตัวอย่าง สินค้าคือรองเท้า คุณอาจเริ่มด้วยการตั้งคำถามเบสิก เช่น เป็นรองเท้าสำหรับใคร? ผลิตจากวัสดุอะไร? ใช้ในโอกาสอะไร? สมมติคำตอบคือ รองเท้าสำหรับเพศชาย ทำจากหนัง เหมาะกับงานทางการ คีย์เวิร์ดที่คุณตั้งอาจเป็น รองเท้าหนังผู้ชาย หรือ รองเท้าทางการชาย เป็นต้น
2. การใส่คีย์เวิร์ดเดิมซ้ำๆ และใส่เยอะๆ ไว้ก่อน
การใส่คีย์เวิร์ดซ้ำๆ นั้น Algorithm ของ Google มีความฉลาดมากและมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดการเนื้อหาต่างๆ ดังนั้นหากคุณจะยัดคีย์เวิร์ดซ้ำๆ ก็ทำได้แต่จะไม่ส่งผลเท่าไหร่นักอาจทำให้คุณเสียเวลาเปล่าๆ แถมทำให้เนื้อหาดูไม่เป็นธรรมชาติ ผู้อ่านอาจรู้สึกว่าบทความนี้ห่างไกลตัว , ไม่น่าสนใจและคงไม่มีประโยชน์กับตัวเอง นอกจากนี้ การทำ SEO ให้ติดอันดับ แน่นอนว่าต้องใส่คีย์เวิร์ดที่ผู้คนนิยมค้นหากัน แต่หากใส่เยอะเกินไป ทาง Google จะมองว่าเป็นการ spam ทันทีและมีโอกาสที่เว็บไซต์ของคุณจะถูกลดอันดับด้วย ทางเราแนะนำให้คุณพิจารณาตามความเหมาะสมกับเนื้อหา ลูกค้าอ่านแล้วเข้าใจได้ลื่นไหลและไม่ดูพยายามเน้นจนทำให้เนื้อหาส่วนอื่นดรอปลง
3. การทำ SEO มีวิธีทำที่ตายตัว
เราสามารถบอกได้ว่าต่อให้คุณทำ SEO วิธีเดียวกันแบบลอกกันมาเลยผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็จะไม่เหมือนกัน เราแนะนำให้คุณดูวิธีการของแบรนด์ที่คล้ายคุณและเขาทำสำเร็จ แล้วนำมาปรับใช้กับตัวเองโดยคำนึงความเหมาะสมกับช่วงเวลาและสามารถตอบโจทย์กับเว็บไซต์ของคุณ
4. SEO ต้องทำตลอดหยุดทำไม่ได้
ข้อนี้จะว่าจริงก็จริงหรือไม่จริงก็ได้เพราะการที่เราหยุดทำ SEO ไปจะทำให้คู่แข่งมีโอกาสในการแย่งอันดับของเราแต่บางเว็บไซต์หยุดทำ SEO หรือทำน้อยมาก แต่ก็ยังติดอันดับหน้าแรกอยู่ โดยมีปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการมัดใจลูกค้าด้วยคุณภาพสินค้าหรือบริการให้ลูกค้ายังคงอยู่หลังจากพาพวกเขาเข้ามาที่เว็บไซต์เราสำเร็จ
5. SEO ไม่ได้ช่วยให้ขายดี
การทำ SEO มีจุดประสงค์เพื่อให้คนค้นหาเจอเราก่อนเป็นคนแรกๆ แต่ถ้าเขาค้าหาเจอแล้วยังไงต่อละ คุณนำเสนอสินค้าน่าสนใจพอไหม คุณปิดการขายดีไหม มีโปรโมชั่นที่น่าดึงดูดหรือเปล่า เหล่านี้ต่างหากที่เป็นตัวที่ทำให้คุณปิดการขายได้ SEO เป็นแค่ตัวช่วยเท่านั้น
Customers Testimonial ความพึงพอใจจากลูกค้า
