ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของร้านเบเกอรี่เล็กๆ หรือเป็นช่างภาพอิสระ เว็บไซต์ที่ดีก็มีความสำคัญต่อความสำเร็จและการเติบโตของธุรกิจคุณ
เว็บไซต์ช่วยให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าเจอคุณได้จากการค้นหา และเป็นการสร้างจุดศูนย์กลางสำหรับข้อมูลการติดต่อ รายการผลิตภัณฑ์ ราคา ฯลฯ นอกจากนี้ เว็บไซต์ยังเพิ่มความน่าเชื่อถือและช่วยให้คุณสามารถแข่งขันกับธุรกิจขนาดเล็กอื่นๆ และองค์กรที่มีชื่อเสียงได้ ดังนั้นคุณจะสร้างเว็บไซต์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับธุรกิจขนาดเล็กของคุณได้อย่างไรกัน? เคล็ดลับ 11 ข้อมีดังนี้:
1. มีชื่อโดเมนที่ดี
เมื่อเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ ผู้คนจะเห็นชื่อโดเมนหรือที่อยู่เว็บไซต์ของคุณเป็นอันดับแรก สามารถสร้างความประทับใจแรกได้ เพื่อประโยชน์ในการใช้งานและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา ดังนั้นการตั้งชื่อโดเมนมีสิ่งที่ควรคำนึงถึง ได้แก่:
• ควรสะกดง่าย/พิมพ์ง่าย
• ตั้งให้สั้นที่สุด
• หลีกเลี่ยงการใช้ตัวเลข สัญลักษณ์ และขีดกลาง
• ใช้นามสกุลโดเมนที่เหมาะสม ตัวเลือกที่ดีอาจเป็นรหัสของประเทศคุณ หรือ .com
2. เลือกใช้ Hosting ที่ดี
ผู้ให้บริการ web hosting จะเสนอเทคโนโลยีและบริการที่จำเป็นสำหรับการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณบนโลกอินเทอร์เน็ต
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณของคุณ คุณมีทางเลือกสองทางระหว่าง แชร์โฮสติ้งหรือโฮสติ้งเฉพาะ อย่างแรกมีราคาถูกกว่า ส่วนอย่างที่สองทำให้คุณมีเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นส่วนตัว โดยคุณไม่ต้องแข่งขันกับไซต์อื่น ๆ ที่อาจทำให้ความเร็วของคุณลดลง
3. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์คุณสามารถโหลดได้เร็ว
ความรวดเร็วของหน้าเว็บไซต์เป็นองค์ประกอบสำคัญของเว็บไซต์ เว็บไซต์ที่โหลดได้เร็วจะมี bounce rate ต่ำกว่า, ติดอันดับที่สูงขึ้น และ Conversion rate ก็สูงขึ้นเช่นเดียวกัน
ดังนั้นเว็บไซต์ของคุณควรโหลดได้เร็วแค่ไหน? ตามหลักการแล้ว ไซต์ของคุณควรโหลดได้ภายในสามวินาที
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาในการโหลดหน้าในเว็บไซต์ของคุณ แต่นับว่าโชคดีที่มีทางแก้มากพอ ๆ กัน
4. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่
54% ของการเข้าชมเว็บทั้งหมดมาจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ ดังนั้นถ้าคุณไม่เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณสำหรับอุปกรณ์มือถือ ธุรกิจคุณอาจไปได้ไม่สวยนัก
ทดสอบไซต์ของคุณโดยเครื่องมือทดสอบความเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ของ Google เพื่อดูว่าแฟริ่งได้ดีเพียงใด มันจะช่วยให้คุณเจาะจงเฉพาะพื้นที่ใช้งานและให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์
5. การออกแบบของคุณควรเรียบง่ายพร้อมทั้งใช้งานง่าย
น้อยแต่มากใช้ได้เมื่อพูดถึงการออกแบบเว็บ
การออกแบบที่เรียบง่ายไม่เพียงแต่ถูกกว่าและง่ายต่อการแก้ไข แต่ยังมอบประสบการณ์การเป็นผู้ใช้สำหรับลูกค้าของคุณได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจของคุณมียอดขายเพิ่มขึ้นและรักษาความภักดีของลูกค้าเอาไว้ได้ดีขึ้น
6. หน้าบนเว็บไซต์ของคุณต้องไม่กระจัดกระจาย
ไซต์ที่รกจากการมีจำนวนหน้ามากเกินไป และองค์ประกอบการออกแบบที่วุ่นวาย อาจทำให้ผลตอบรับจากผู้ใช้ในเชิงลบ ซึ่งทำให้ bounce rate สูงขึ้น
หน้ามาตรฐานสำหรับเว็บไซต์ธุรกิจขนาดเล็กประกอบด้วย โฮมเพจ ข้อมูลเกี่ยวกับเรา หน้าผลิตภัณฑ์/บริการ บล็อก และหน้าช่องทางการติดต่อ ดังนั้นหน้าใด ๆ ที่ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ให้นำออก
ถัดไปคือ หลีกเลี่ยงการใส่ลิงก์และรูปภาพมากเกินไป และใช้พื้นที่ว่างให้มากขึ้น
7. ทำให้ง่ายต่อการนำทาง
เว็บไซต์ที่ออกแบบมาอย่างดีแต่มีการนำทางที่ไม่ดีนั้นไม่มีประโยชน์ เพราะผู้ใช้จะไม่พบข้อมูลที่ต้องการ ดังนั้นควรออกแบบระบบนำทางที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ใช้ไปในหน้าที่พวกเขาต้องการได้อย่างง่ายดาย แถบนำทางและแถบค้นหาสามารถช่วยทำให้การนำทางบนเว็บไซต์ของคุณง่ายขึ้น
8. วางข้อมูลช่องทางการติดต่อของคุณไว้บนครึ่งหน้าบน
การให้ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ตามจริง หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล และหน้าโซเชียลมีเดียของคุณนั้น สร้างความน่าเชื่อถือได้ ดังนั้น คุณควรใส่ข้อมูลติดต่อไว้ส่วนครึ่งหน้าบนเสมอ ครึ่งหน้าบนเป็นส่วนที่มองเห็นได้ของหน้าเว็บที่ผู้ชมเห็นก่อนที่จะเลื่อนลง เป็นอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในการออกแบบเว็บและใช้ประโยชน์ได้ดีที่สุดโดยการเพิ่มข้อมูลสำคัญอันมีค่า เช่นรายละเอียดการติดต่อของคุณ
9. เลือกผู้สร้างเว็บไซต์ที่ดี
WordPress เป็นผู้สร้างเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกพร้อมด้วยเหตุผลที่ดี
มันฟรี มีปลั๊กอินให้เลือกจำนวนมากเพื่อขยายฟังก์ชันการทำงานของไซต์ของคุณ การติดตั้งและใช้งานง่าย และยังมีสังคมชุมชนที่ให้การสนับสนุนในวงกว้างและมีความกระตือรือร้น
10. รวมคำกระตุ้นในการตัดสินใจที่ชัดเจน
คำกระตุ้นในการตัดสินใจทำหน้าที่เป็นป้ายบอกทาง ที่ช่วยให้ผู้เยี่ยมชมรับรู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป
คุณสามารถใช้ CTA เพื่อโน้มน้าวผู้เข้าชมให้กรอกแบบฟอร์มส่ง, แชร์เนื้อหาของคุณ, สมัครรับจดหมายข่าวของคุณ, อ่านเนื้อหาเพิ่มเติม, ซื้อสินค้าของคุณ หรือติดต่อกับคุณ
เมื่อเขียนคำกระตุ้นในการตัดสินใจ ให้ระบุประโยชน์ชัดเจนและใช้ข้อความที่นำไปใช้ได้จริง เช่น "ซื้อเลย" หรือ "สมัครใช้งาน" CTA ของคุณควรสั้นและเป็นการตอกตะปูเข้าที่หัว
11. เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณสำหรับเครื่องมือค้นหา
การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหาเกี่ยวข้องกับการใช้แนวทางปฏิบัติแตกต่างกัน เพื่อให้แน่ใจว่าดัชนีเครื่องมือค้นหาและอันดับไซต์ของคุณเหมาะสม จึงจะได้อันดับสูงในหน้าผลลัพธ์ของเครื่องมือค้นหา
ต่อไปนี้คือแนวทางปฏิบัติบางประการที่คุณควรปฏิบัติตามเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพไซต์ของคุณสำหรับ SEO
• เลือกการออกแบบเว็บไซต์ที่ responsive เพื่อให้เนื้อหาของคุณทำงานได้บนทุกอุปกรณ์
• ใช้คีเวิร์ดที่เหมาะสมในหน้าและเนื้อหาของคุณ
• เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณเพื่อความรวดเร็ว
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไซต์ของคุณปลอดภัยโดยการตั้งรับรอง SSL
• ทำ internal link และ external link ให้ทั่วทั้งไซต์ของคุณ
