ทุกวันนี้คงแทบไม่มีใครไม่ทำการตลาดผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเพราะทั้งการใช้งานที่ง่ายสามารถสร้างการรับรู้ของสินค้าและบริการหรือแบนรด์ได้เป็นอย่างดีและหลายๆแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็สามารถใช้เงินซื้อโฆษณาเพื่อเพิ่มการมองเห็นได้เป็นอย่างดีและยังสามารถวัดผล ROI หรือที่เรียกว่า Return on Investment เพื่อเปรียบเทียบต้นทุนและกำไรได้อย่างชัดเจนแล้วทำไมผมถึงตั้งคำถามละว่าทำไม “ขายของออนไลน์ใช้โซเชียลอย่างเดียวพอหรอ?” ด้วยจำนวนผู้ใช้ที่เยอะขึ้นของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียก็ย่อมมีกฎมีข้อบังคับมากขึ้นเป็นธรรมดา เคยได้ยินคำว่าถูกปิดกั้นการมองเห็นไหมครับ
การถูกปิดกั้นการมองเห็น
หลายๆคนที่ขายของออนไลน์คงประสบปัญหานี้กันมาแล้วไม่ว่าจะเป็นถูกFacebook ปิดกั้นการมองเห็น หรือ TikTokโดนปิดการมองเห็น สาเหตุส่วนใหญ่ที่ผู้ใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียถูกปิดกั้นการมองเห็นคือการละเมิดกฎของแพลตฟอร์มนั้นๆเพื่อไม่ให้การมองเห็นของเราถูกปิดกั้นเราควรศึกษากฎของแต่ละแพลตฟอร์มให้ดีก่อนหรือการโพสต์ขายของที่มากเกินไปมันคงจะไม่ดีนักเมื่อเราเข้าFacebookหรือTikTok มาโพสต์เสพสื่อหาความรู้ความบันเทิงแต่ก็มาเจอแต่โพสต์ขายของ แล้วจะทำยังไงละให้ถูกปิดกั้นการมองเห็นอันดับแรกสิ่งที่ง่ายที่สุดก็คือการไม่ทำผิดกฎของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียนั้นๆหรือการเขียน content ที่น่าสนใจเช่นถ้าคุณขายเสื้อผ้าคุณอาจทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการแต่งตัวหรือถ้าคุณมีงบคุณก็สามารถยิงแอดได้แต่ก็แลกมากับต้นทุนที่สูงขึ้น
ต้นทุนที่สูงขึ้น
ทุกวันนี้การขายของออนไลน์มีการแข่งขันกันสูงมาก จากเดิมที่ทำคอนเทนต์โพสต์ขายสินค้าบริการก็มีลูกค้าเข้ามาซื้อเข้ามาใช้บริการมากมายแต่ทุกวันนี้ลูกค้ามีตัวเลือกมากกว่าเดิมทำให้ธุรกิจต้องใช้งบการตลาดที่เพิ่มขึ้นในการซื้อโฆษณาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆแต่ก็อาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควรเพราะลูกค้าที่ชมโฆษณาไม่ได้มีความตั้งใจซื้อเท่าที่ควร และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่ได้ทำมาเพื่อขายสินค้า
ถ้าเราขายสินค้าไม่มีชิ้นไม่กี่ชนิดก็คงไม่เกิดความยุ่งยากเท่าไหร่นักแต่ถ้าเรามีสินค้า 10 ชนิดชนิดละ100ชิ้นมีออเดอร์มาทีเดียวหลายสิบบ้านการจัดการคงวุ่นวายน่าดู หลายคนอาจจะบอกว่าก็ไปใช้ tiktok shop Facebook Marketplace สิสะดวกดีออก แต่คุณอย่าลืมนะว่าคุณจะเสียค่า GP ทำให้ต้นทุนคุณสูงขึ้นและที่สำคัญกระแสเงินสดกว่าคุณจะสามารถถอนเงินออกมาจากแพลตฟอร์มเหล่านั้นได้ต้องใช้เวลาพอสมควรจะดีกว่าไหมถ้าคุณมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
คุณไม่ต้องกลัวว่าคุณจะถูกปิดกั้นการมองเห็นจะโพสสินค้ามากแค่ไหนก็ได้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นต้นทุนการโฆษณาก็ต่ำกว่าไม่โดนหักค่า GP ลูกค้าชำระเงินผ่านเว็บไซต์เงินก็เข้าบัญชีของคุณเลยทำให้ธุรกิจมีกระแสเงินสดที่ดีขึ้น
สรุป
ทุกวันนี้การขายของออนไลน์มีการแข่งขันกันที่สูงเราไม่ควรฝากชีวิตของสินค้าบริการหรือแบนรด์ของเราไวกับที่ใดที่หนึ่งควรใช้ช่องทางที่เหมาสมกับจุดประสงค์เช่น อยากให้มีคนรู้จักแบนรด์เรามากขึ้นก็ใช้โซเชียลมีเดียพอถึงจุดหนึ่งเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นก็ดึงคนเข้าเว็บไซต์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของแบนรด์ให้มากยิ่งขึ้นและทำการเสนอขายสินค้าหรือบริการต่อไป